ประวัติความเป็นมาวันลอยกระทง
วันลอยกระทง ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๑๒
เป็นประเพณีที่สืบทอดมาแต่โบราณโดยมีวัตถุประสงค์ที่หลากหลายเช่นลอยเคราะห์
บูชาพระพุทธเจ้าแต่ปัจจุบันนิยมทำเพื่อขอขมา และระลึกถึงคุณแม่พระคงคา
ที่ได้อำนวยประโยชน์ต่าง ๆ แก่มนุษย์
โดยประเพณีลอยกระทงมีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัยประมาณ ๗๐๐ ปีมาแล้ว
ประเพณีลอยกระทงได้เข้าสู่ประเทศไทยในสมัยกรุงสุโขทัยเป็นราชธานีประมาณ
พ.ศ. ๑๘๐๐ ดังปรากฏในหนังสือนางนพมาศ ผู้เป็นพระสนมเอกของพระร่วงเจ้าว่า
"ครั้นวันเพ็ญเดือน ๑๒ ข้าน้อยได้กระทำโคมลอย
คิดตกแต่งให้งามประหลาดกว่าโคมสนมกำนัลทั้งปวงจึงเลือกผกาเกษรสีต่างๆ
มาประดับเป็นรูปกระมุทกลีบบานรับแสงจันทร์ใหญ่ประมาณเท่ากงระแทะ
ล้วนแต่พรรณดอกไม้ซ้อนสีสลับให้เป็นลวดลาย..."
เมื่อสมเด็จพระร่วงเจ้าได้เสด็จฯทางชลมารค
ทอดพระเนตรกระทงของนางนพมาศก็ทรงพอพระราชหฤทัย
จึงมีพระราชโองการฯให้จัดพิธีลอยกระทงเป็นประจำทุกปี
ในคืนวันเพ็ญเดือนสิบสองพระราชพิธีนี้จึงได้ถือปฏิบัติเป็นประจำจนกระทั่ง
บัดนี้
ความเชื่อเกี่ยวกับวันลอยกระทง
- เป็นการขอขมาพระแม่คงคา ที่มนุษย์ได้ใช้น้ำ ได้ดื่มกินน้ำ รวมไปถึงการทิ้งสิ่งปฏิกูลต่างๆ ลงในแม่น้ำ
- เป็นการสักการะรอยพระพุทธบาท ที่พระพุทธเจ้าทรงได้ประทับรอยพระบาทไว้หาดทรายแม่น้ำนัมมทานที ในประเทศอินเดีย
- เป็นการลอยความทุกข์ ความโศกรวมถึงโรคภัยต่างๆ ให้ลอยไปกับแม่น้ำ
- ชาวไทยในภาคเหนือมีความเชื่อว่า การลอยกระทงเป็นการบูชาพระอุปคุต ตามตำนานเล่าว่า พระอุปคุตทรงสามารถปราบพระยามารได้
- ในคืนวันเพ็ญเดือน 12 วันลอยกระทง จะมีพิธี อาบน้ำเพ็ญ ในเวลาเที่ยงคืน ซึ่งเป็นช่วงที่พระจันทร์อยู่กึ่งกลางพอดี และเชื่อว่าถ้าผู้ใดได้อาบ จะเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตhttps://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%97%E0%B8%87
ลอย กระทงเป็นประเพณีที่สำคัญอย่างหนึ่งของไทย ซึ่งมีการปฏิบัติตามความเชื่อของแต่ละท้องถิ่น เช่น เพื่อให้ความเคารพ และขอบคุณน้ำที่อำนวยประโยชน์ต่าง ๆ ต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์ รวมทั้งเป็นการขอขมาน้ำที่มนุษย์ได้ใช้ประโยชน์หรือ ทำความเสียหายแก่น้ำ เช่น ทิ้งสิ่งปฏิกูลลงน้ำ หรือลอยเพื่อสะเดาะเคราะห์ ซึ่งประเพณีลอยกระทงก่อให้เกิดคุณค่าและความ สำคัญ ดังนี้
1. คุณค่าต่อครอบครัว ทำให้สมาชิกในครอบครัวได้ทำกิจกรรมร่วมกัน เช่น การประดิษฐ์กระทงไปลอยเพื่อแสดงความสำนึกในบุญคุณของน้ำที่ให้คุณประโยชน์ แก่เรา
2. คุณค่าต่อชุมชน ทำให้เกิดความสมัครสมานสามัคคีในชุมชน
3. คุณค่าต่อสังคม ทำให้มีความเอื้ออาทรต่อกันและกันและเอื้ออาทรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยการ ช่วยกันรักษาความสะอาดแม่น้ำ ลำคลองและแหล่งน้ำต่าง ๆ
4. คุณค่าต่อศาสนา เป็นการช่วยกันรักษาและทำนุบำรุงศาสนา และสืบทอดประเพณีอันดีงามของไทยแต่โบราณ https://sites.google.com/site/loeykrathngpuktay/khun-kha-elea-khwam-sakha
การลอยกระทงในปัจจุบัน
การ ลอยกระทงในปัจจุบันนั้นยังคงรักษารูปแบบเดิมนั้นเอาไว้ได้ตามสมควร และเมื่อถึงวันเพ็ญพระจันทร์เต็มดวงในเดือน 12 ชาวบ้านก็จะจัดเตรียมทำกระทงจากวัสดุที่หาได้ง่ายตามธรรมชาติ เช่น หยวกกล้วย ดอกบัว นำมาประดิษฐ์เป็นกระทงที่สวยงาม แล้วปักธูปเทียนและดอกไม้ต่างๆ และเครื่องสักการบูชา ก่อนที่จะทำการลอยในแม่น้ำนั้นก็จะอธิษฐานในสิ่งที่ได้มุ่งหวังพร้อมขอขมา ต่อพระแม่คงคา ตามวัดหรือสถานที่จัดงานหลายแห่งจะมีการประกวดกระทง การประกวดนางนพมาศ และจะมีมหรสพสมโภชตลอดทั้งคืน และนอกจากนี้ยังมีการจุดดอกไม้ไฟ จุดพลุ จุดตะไล ซึ่งในการเล่นนั้นต้องมีความระมัดระวังเป็นพิเศษ วัสดุอุปกรณ์ที่นำมาใช้ทำกระทง ควรจะเป็นของที่จะสามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาตินะค่ะ
http://www.rakjung.com/important-day-no206.html
http://www.tlcthai.com/loykratong/wp-content/uploads/2013/11/GonWalk.jpg
วิธีทำกระทงใบตอง
1. ตัดใบตองขนาดความกว้าง 1.5 นิ้ว ยาว 6 นิ้ว โดยประมาณ
2. พับเป็นกลีบกุหลาบตามรูป จำนวน 3 กลีบ จากนั้นนำมาสวมเรียงกันให้มีระยะห่างพองามตามความชอบ ควรจัดให้ยอดของกลีบ และลอนของกลีบตรงเสมอเป็นแนวเดียว ซึ่งจะทำให้ผลงานออกมาดูสวยงามเป็นระเบียบเรียบร้อย
3. ใช้ด้ายสีเขียวใกล้เคียงกับใบตอง หรือสีดำมาเย็บติดกันด้วยด้นถอยหลังให้เป็นแนวตรงเสมอกันโดยตลอด
4. พับกลีบใบตองแล้วเย็บต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งสามารถหุ้มขอบของฐานกระทงได้โดยรอบ ตรึงกลีบใบตองกับฐานของกระทงด้วยหมุด แล้วขลิบส่วนที่เลยพ้นฐานลงมาให้เรียบร้อยเสมอกับฐาน เมื่อทำเสร็จแล้วจะมีลักษณะคล้ายกับมงกุฎสวมศีรษะ
5. จากนั้นประดับด้วยดอกไม้ตามความชอบ และปักธูปเทียนลงไป เป็นอันเสร็จ
http://hilight.kapook.com/view/16871
http://teen.mthai.com/wp-content/uploads/2014/11/%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%82%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%99.jpg
ขั้นตอนการทำกระทงขนมปัง
- ร่อนแป้ง เติมยีสต์ คลุกเคล้าให้เข้ากัน
- ผสมน้ำตาลทราย เกลือป่น น้ำเย็น ขนส่วนผสมเข้าให้กันพอละลาย
- เทลงในอ่างแป้ง นวดแป้งพอให้เข้ากัน แล้วเติมเนยขาว นวดต่อจนแป้งเนียน พักแป้งไว้ประมาณ 15-20 นาที
- ตัดแป้งก้อนละ 100 กรัม คลึงแป้งให้กลม
- รีดแป้งเป็นแผ่นกลม เท่ากับจานสังกะสี ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 8-9 นิ้ว
- ตกแต่งขอบข้างด้วยพิมพ์ กดให้ขอบเกิดลวยลายสวยงาม
- รีดแป้งอีกก้อน ให้บางประมาณ 1/4 นิ้ว ใช้พิมพ์รูปใบไม้ รูปหัวใจ ตัดแบ่งออกมา ตกแต่งด้านในของพิมพ์
- ตัดแป้งเป็นเส้นยาว 6-7 นิ้ว กว้าง 1-2 นิ้ว ม้วนเป็นรูปกุหลาบวางตรงกลางสำหรับปีกธูปเทียน พักแป้งไว้ให้ขึ้นอีก 20-30 นาที
- ทาผิวด้วยไข่ไก่ นำเข้าอบที่อุณภูมิ 400 องศาฟาเรนไฮด์ ประมาณ 20-30 นาที หรือจนสุกเหลือง
- นำกระทงขนมปังมาตกแต่งด้วยดอกไม้สด และปักธูปเทียน ใช้ในประเพณีวันลอยกระทง http://scoop.mthai.com/scoop/3361.html
http://static.tlcdn3.com/data/1/pictures/0213/11-29-2012/p17d5itmv4149tjj59i8md71lh95.jpg
เพลงลอยกระทง